After Party คืออะไร จำเป็นต้องมีมั้ยย ?!


10917247_1605590329672665_8483973168851862075_o
After Party คืออะไร ?
           อาฟเตอร์ปาร์ตี้ คือ งานเลี้ยงช่วงหลังจากที่บ่าว-สาวได้มาร่วมสนุก เฮฮาปาร์ตี้เฉพาะเพื่อนๆ หรือแขกคนพิเศษภายในงานหลังเสร็จสิ้นจากพิธีการบนเวทีเรียบร้อยแล้ว โดยหลักแล้วก็จะใช้เป็นวงดนตรีสดหรือจะเป็น DJ มิกซ์เพลงในสไตล์ต่างๆ ไม่ว่าจะ EDM,Dance ตามแต่บ่าวสาวต้องการ

After Party จำเป็นไหม ควรจัดไหม ?
คำถามสำหรับบ่าวสาวที่อยากจะจัด After Party
1. เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเป็นคนชอบปาร์ตี้ และชอบสังสรรค์ อยากสนุกเฮฮากับเพื่อนๆ มั้ย ?

2. มีเพื่อนหรือแขกที่จะอยู่ในช่วง After Party มากน้อยเเค่ไหน
สามารถระบุแน่นอนได้หรือไม่ว่าจะอยู่ครบตามที่เราต้องการ ? (อย่างน้อยก็ควรมีแก๊งค์เพื่อนสนิททั้งฝั่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวซักหน่อยครับ)

3. ช่วงอาฟเตอร์ระยะเวลาประมาณ 1 หรือ 2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่ร่วมงาน,ข้อกำหนดเรื่องเวลาของสถานที่จัดงาน เป็นต้น

4. ต้องการเป็นวงดนตรีแบบไหน วงดนตรีสด หรือ DJ เปิดเพลง
กรณีที่อยากได้เป็นดนตรีสด ก็จะมีให้เลือกอีก 2 แบบ คือ
 4.1 วงดนตรีอคูสติค
319730                                       


จะเป็นวงดนตรีที่ส่วนใหญ่จะใช้ตั้งแต่เริ่มงานจนจบพิธีการ (ซึ่งในช่วงก่อน/พิธีการ/หลัง
รูปแบบของเพลงที่เล่น จะเป็นเพลงจังหวะช้า-ปานกลาง ในสไตล์ฟังสบายๆ) แต่พอช่วง After Party
วงสามารถเปลี่ยนเป็นเพลงสนุกๆ ได้ แต่ด้วยความที่เครื่องดนตรีเป็นในแนวอคูสติค (เช่นกีต้าร์โปร่ง,คีย์บอร์ด,แซ็กโซโฟน,กลองไฟฟ้า) ทำให้สเกลการบรรเลง,ความดังของวงแบบนี้จะไม่เหมือนกับวงแบนด์ไฟฟ้าเหมือนในคอนเสิร์ตหรือตามผับ บาร์ต่างๆ ที่มีเสียงที่หนักแน่นและความสนุกสนานมากกว่า
แต่ก็มีข้อดีตรงที่ช่วยประหยัดงบประมาณในด้านอุปกรณ์เครื่องเสียง เพราะใช้อุปกรณ์เหมือนตอนเริ่มต้นงาน แตกต่างจากวงแบนด์ไฟฟ้าที่จำเป็นต้องอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างพวกตู้แอมป์กีต้าร์ต่างๆ และกลองชุดครับ

4.2 วงดนตรีแบนด์ไฟฟ้า

319736                                       

จะเป็นวงดนตรีที่ลักษณะเหมือนหรือใกล้เคียงกับวงดนตรีในคอนเสิร์ตหรือตามผับ บาร์ต่างๆ ซึ่งระดับการบรรเลง ความดัง ความสนุกจะเต็มที่ได้มากกว่าวงอคูสติคเสมือนว่าเป็นคอนเสิร์ตของเราเองเลยทีเดียว วงแบบนี้จะมีเครื่องดนตรีที่ประกอบไปด้วยกีต้าร์ไฟฟ้า,เบส,กลองชุด จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายงบเพิ่มมากในด้านชุดเครื่องเสียงมากขึ้นกว่าวงดนตรีอคูสติค เพราะชุดเครื่องเสียงที่จะต้องคำนวณลำโพงเพื่อให้รองรับกับวงแบนด์ รวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์จำพวกตู้แอมป์กีต้าร์ไฟฟ้า,แอมป์เบส,แอมป์คีย์บอร์ด,กลองชุด ชุดลำโพงต่างๆ เป็นต้น

4.2 กรณีที่อยากได้เป็น DJ
index                 จะเหมาะสำหรับบ่าวสาวที่ชอบในแนวเปิดเพลงเต้นกับเพื่อนๆ สนุกๆ ไม่ได้เน้นกับดนตรีสดแต่ไม่อยากเเค่เปิดเพลงธรรมดา ซึ่งความสามารถของ DJ แต่ละคนก็จะแตกต่างๆกันตามแนวเพลงของตน ขึ้นอยู่กับความต้องการของบ่าวสาวเป็นหลักครับ

ความแตกต่างระหว่าง DJ และวงดนตรีสด
– DJ (Disc Jockey)
เหมาะกับงานที่บ่าวสาว เน้นเต้นสนุกๆ กับเพื่อนๆ เพียงอย่างเดียว หรืออาจจะชื่นชอบแนวเพลง EDM หรือเพลง Dance เหมือนในผับ บาร์ซึ่งก็จะต้องดูผลงานของ DJ คนนั้นๆ ประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง
– วงดนตรีสด
เหมาะกับงานที่บ่าวสาว ชื่นชอบวงดนตรีสด อยากได้เพลงฮิต หรือเพลงในยุคสมัยต่างๆ (ยุค 90′ ฯลฯ) หรือแม้เเต่เพลงลูกทุ่ง เพลงเพื่อชีวิตสนุกๆ ก็ยังได้ ทำให้เข้าถึงและแขกในงานร่วมสนุกได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถลิสเพลงที่เราต้องการ รวมถึงมีกิจกรรมร่วมกับวงดนตรีได้ อย่างเช่น การร้องสดจากบ่าวสาวหรือเพื่อนๆ , การเต้นรำ เป็นต้น

DJ ส่วนใหญ่จะมาเฉพาะอุปกรณ์ในการมิกซ์และเปิดเพลงเท่านั้นไม่ได้รวมชุดเครื่องเสียงพวกลำโพงภายในงาน อาจจะต้องจ้างชุดเครื่องเสียงเพิ่มในกรณีที่บ่าวสาวใช้ลำโพงของสถานที่ ซึ่งก็ตามแต่ DJ แต่ละคนจะตกลง อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ประหยัดงบประมาณมากที่สุด รองจากวงอคูสติคและวงแบนด์ไฟฟ้าตามลำดับครับ

5. งบประมาณในการ After Party
5.1 ค่าเช่าสถานที่ (ส่วนใหญ่เเล้วสถานที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มกรณีที่จัด After Party หลังจบพิธีการ )
5.2 ค่าใช้จ่าย เครื่องดื่ม Soft Drink หรือแอลกอฮอล์ต่างๆ รวมถึงอาหาร
5.3 ค่าใช้จ่ายในส่วนของเครื่องเสียง วงดนตรีหรือดีเจ
5.5 ค่าใช้จ่ายในส่วนของไฟตกแต่ง Effect ต่างๆ (เเอฟเฟค Smoke,ไฟ Laser,ไฟ Led ภายในงาน ฯลฯ (Option เพิ่มเติมนี้ขึ้นอยู่บ่าวสาวเอง อาจมีหรือไม่มีก็ได้)
5.4 ค่าใช้จ่ายสำหรับชุด/พร๊อบ/ธีมงาน(อาจมีหรือไม่ก็ได้) ในช่วง After Party

หากพิจารณาแล้ว โอเค อยากสนุก เฮฮากับเพื่อนๆ ต่อ ลุยยยยยยยยย

*ซึ่งข้อสำคัญที่สุดคือ ตัวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเอง ถ้าบ่าวสาวถึงเวลาเเล้วไม่มาร่วมสนุกกับวงดนตรี-Dj หรือมีกิจกรรมอย่างใดอย่างนึงร่วมกับแขกหรือเพื่อนภายในงานก็จะทำให้ช่วง After Party ดูดรอปลงไปทำให้งานออกมาน่าเบื่อ ไม่สนุกอย่างที่ตั้งใจไว้ครับ

After Party เริ่มช่วงไหน เวลาไหน ?
           โดยหลักๆ แล้ว การจัดงานแต่งงานจะมี 2 ช่วง คือ ช่วงกลางวัน (11.00-14.00 น. หรือ 18.00-
21.00 น. โดยประมาณ) โดยพิธีการบนเวทีจะเริ่มที่ประมาณ 12.00 หรือ 19.00 บ่าวสาวบางคู่อาจะเริ่มในเวลาที่ช้ากว่านั้น แต่แนะนำว่าไม่ควรเว้นช่วงนานตั้งแต่เวลางานเริ่มเกิน 1-1.30 ชั่วโมง และหลังจากเสร็จพิธีการบนเวที ควรใช้เวลาถ่ายรูปกับแขกภายในงานประมาณ 30-45 นาที ช้าสุดไม่เกิน 1 ชั่วโมงกรณีที่พิธีการเสร็จเร็วครับ After Party จึงควรเริ่มที่ 14.00 น. หรือ 21.00 น. ซึ่งช่วง After นี้ใช้เวลา 1 ชั่วโมงขึ้นไปอาจยาวถึง 2 ชั่วโมงในกรณีที่แขกภายในงานยังคงสนุกกันต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับบ่าวสาวด้วยครับ

ตัวอย่างลำดับเวลา งานแต่งเย็นที่มีช่วง After Party 1 ชม.ด้วย
เริ่มงาน 18.00
– กำหนดเริ่มงานให้เเขกเริ่มลงทะเบียน
– ทยอยให้เเขกนั่งตามโต๊ะที่จัดไว้
พิธีการ  19.00 น. (แนะนำไม่ควรเกิน 19.30 น. ช้าที่สุดกรณีฉุกเฉินคือ 20.00 น.)
– พิธีกล่าวเริ่มต้นพิธีการบนเวที
*หากลำดับพิธีการไม่ยาวมากบางคู่อาจใช้เวลาเพียง 45 นาที (19.45 น.) หรือบางคู่อาจยาวถึง (20.00 น.) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับลำดับพิธีการดังนี้
1.ความยาวของพรีเซนเทชั่น
2.ช่วงเปิดตัวบ่าวสาว
3.ช่วงกล่าวทักทาย
4.ช่วงเชิญประธาน-พ่อแม่บ่าวสาวขึ้นอวยพร
5.ช่วงตัดเค้ก-มอบเค้กให้ประธาน ญาติผู้ใหญ่
6.ช่วงโยนดอกไม้
7.ช่วงเชิญผู้รับดอกไม้ขึ้นแนะนำตัว-กล่าวอวยพร
*รวมถึงอาจมีช่วงเซอร์ไพรส์จากเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวอีก

จบพิธีการ 20.00 น.
ซึ่งลำดับพิธีการบนเวที ควรจะเสร็จสิ้นประมาณ 19.45-20.00 น. หลังจากนั้นบ่าวสาวอาจเดินไปทักทาย
พูดคุยหรือถ่ายรูปกับแขก ญาติผู้ใหญ่ตามโต๊ะ (กรณีที่เป็นโต๊ะจีน หรือบุฟเฟ่ต์) หรือ บางคู่จะไปรอสแตนบายถ่ายรูปกับแขกภายในงานที่แบ็คดรอปหน้างานก็ได้เช่นกัน
จากประสบการณ์แล้วแนะนำว่าควรใช้เวลาตรงนี้ที่ประมาณ 30-45 นาที เพื่อเผื่อเวลากรณีที่บ่าวสาวมีชุดหรือพร๊อบที่ต้องการเปลี่ยนในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้  เเต่หากแขกภายในงานมีจำนวนมากและยังถ่ายรูปกับแขกในงานไม่เสร็จเต็มที่แนะนำว่าไม่ควรเกิน 21.00 น. (ต้องพยายามตัดใจขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนนะครับ) และควรใช้เวลาในการเปลี่ยนชุด-เติมหน้า-เเต่งหน้า ไม่เกิน 15-30 นาที  เพราะยิ่งเราใช้เวลาไปเปลี่ยนชุด-ทำผม-เติมหน้าแต่งหน้านาน แขกในงานที่รอช่วง After Party ก็จะยิ่งรอนานหรืออาจจะทยอยกลับไปบางส่วนได้ครับ

เร่ิมช่วง After Party  21.00-22.00 น. หรือเริ่มช้าที่สุดไม่ควรเกิน 21.30-22.30 น.

เริ่มต้นช่วง After Party แนะนำให้บ่าวสาวเปิดตัวช่วงนี้ด้วยกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากแขกภายในงาน เป็นนัยยะว่า ช่วง After Party นี้ได้เริ่มขึ้นเเล้ว
ตัวอย่างเช่น
– เต้นรำคู่กัน เป็นคู่เเรก อาจเปิดเพลงหรือใช้วงดนตรีเล่นสด เป็นเพลงช้าซึ้งหรือเพลงสนุกตามแต่บ่าวสาว
– การแสดงพิเศษจากเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว หรืออาจจะเป็นเพื่อนๆเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว อาจเป็นการเต้นประกอบเพลงโดยใช้วงดนตรีสดหรือเปิดเพลง
– การร้องเพลงให้แก่กัน โดยเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว หรืออาจเป็นเพลงร้องคู่กัน ใช้เปิดเพลงหรือวงดนตรีเล่นสดก็ได้

กิจกรรมเหล่านี้จะทำให้แขกร่วมงานโฟกัสกับคู่ของเรา เพิ่มอรรถรสและอารมณ์ร่วมสนุก
ไปกับเรา ทำให้งานมีสีสันมากยิ่งขึ้นครับ แต่สำหรับบางคู่ที่ไม่ได้มีกิจกรรมเหล่านี้เตรียมไว้ อย่างน้อยผมแนะนำให้ขึ้นกล่าวทักทายแขกภายในงาน หรือจะมีพิธีกรเชิญขึ้นมาสัมภาษณ์บนเวทีซักเล็กน้อยก็ยังดีครับ

   ” สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากฝากไว้ คือ นี่คืองานของเราครับ ถ้าเราทั้งคู่สนุก เพื่อนๆและแขกในงานก็สนุกกับเราไปด้วยเเน่นอนครับผม ”

สำหรับบ่าวสาวที่เพิ่งเข้ามาอ่านบทควมนี้ สามารถย้อนไปอ่าน ลำดับพิธีการในการจัดงานช่วงเย็นที่มีทั้งหมด 3 Part. ตามนี้ครับ ช่วงเปิดตัว Part.1 ช่วงตัดเค้ก Part.2  ช่วงโยนดอกไม้ Part.3

จบไปคร่าวๆ แล้วนะครับ สำหรับบทความเรื่อง After Party ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยในการตัดสินใจสำหรับคู่บ่าวสาวที่กำลังลังเลว่าจะจัด After Party ดีหรือไม่นะครับ

ขอบคุณครับ
สิทธิกานต์  บัวทอง
วงหัวกะทิ
https://www.facebook.com/HuaKaThiBand

Advertisement

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s